ขั้นตอนการส่งใบสมัคร
1. ส่งใบสมัคร matching มายังสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทย ใบสมัคร matching 2559 ส่งสมาคมฯ
ใบสมัครแพทย์ประจาบ้านสาขาอนุสาขาต่างๆ ทางอายุรศาสตร์ ปีการฝึกอบรม ๒๕๕๙.pdf
2. ส่งใบสมัครไปยัง สถาบันที่สมัครทุกแห่งพร้อมเอกสารแนบดังต่อไปนี้ (ส่งในรูปแบบเอกสาร หรือเอกสารที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์)
2.1) ใบสมัครแพทย์ประจำบ้าน
2.2) หลักฐานแสดงคุณสมบัติบุคคล ได้แก่
2.2.1) สำเนาบัตรประชาชน
2.2.2) สำเนาระเบียนแสดงผลการศึกษา
2.2.3) สำเนาใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม (หรือหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม)
2.3) หนังสือแสดงประวัติส่วนบุคคล การศึกษาฝึกอบรม ผลงานวิชาการ และกิจกรรมพิเศษ (curriculum vitae) ของผู้สมัคร หรือตามสถาบันที่สมัครกำหนด
2.4) สำเนาประกาศนียบัตรการเพิ่มพูนทักษะหรือหนังสือรับรองว่ากำลังปฏิบัติงานเพิ่มพูนทักษะ
2.5) หนังสือรับรอง/แนะนำผู้สมัคร ตามสถาบันที่สมัครกำหนด
2.6) สำเนาหนังสือรับรองการเป็นต้นสังกัดอนุมัติให้เข้าฝึกอบรม (กรณีมีต้นสังกัด)
กำหนดการ Matching Programme
เพื่อรับสมัครแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉินโดยสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ประจำปีการศึกษา 2559
การฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน ในปัจจุบันมีตำแหน่งฝึกอบรม 116 ตำแหน่ง มีการสมัครเป็นทางการ 2 รอบ ที่แพทยสภา
รอบที่ 1 วันที่ 12 – 30 ตุลาคม 2558
รอบที่ 2 วันที่ 24 – 30 พฤศจิกายน 2558
เพื่อให้การสมัครแพทย์ประจำบ้านเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ จึงได้ดำเนินการจัด Matching Programme สำหรับปีการศึกษา 2559 กำหนดขั้นตอน Matching Programme ไว้ดังนี้
3. ผู้สมัครกรอกใบ Matching Programme ส่งไปที่สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ โดยระบุสถาบันที่ต้องการเลือก 1 - 3 สถาบัน ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2558 (ถ้าส่งไปรษณีย์จะต้องส่งภายใน 26 ตุลาคม 2558 โดยถือวันที่ประทับตราไปรษณีย์เป็นสำคัญ) ใบสมัคร matching 2559 ส่งสมาคมฯ
ใบสมัครแพทย์ประจาบ้านสาขาอนุสาขาต่างๆ ทางอายุรศาสตร์ ปีการฝึกอบรม ๒๕๕๙.pdf
4. ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนอันดับสถาบันที่ต้องการเลือกได้ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2558
5. สถาบันสอบสัมภาษณ์ รอบที่ 1
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 1 ในสถาบันนั้นพร้อมกันในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2558
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 2 ในสถาบันนั้นพร้อมกันในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2558
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 3 ในสถาบันนั้นพร้อมกันในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558
โดยแต่ละสถาบันแจ้งให้ผู้สมัครสอบทราบว่าได้รับคัดเลือกหรือไม่ในวันสอบสัมภาษณ์แต่ละวัน เพื่อที่ผู้สมัครจะได้ไม่ต้องไปสอบสัมภาษณ์ในอันดับต่อไปถ้าได้รับเลือกแล้ว
สถาบันมีสิทธิที่จะไม่ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 2 - 3 ถ้าได้รับผู้สมัครในอันดับที่ 1 - 2 ครบตามตำแหน่งแล้ว และส่งผลผู้สมัครที่ได้รับคัดเลือกในอันดับ 1 - 3 มายังสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558
6. ประกาศผล Matching วันที่ 21 พฤศจิกายน 2558 เวลา 16.00 น. เมื่อทราบผล Matching แล้วแพทย์ประจำบ้านไปสมัครเป็นทางการที่แพทยสภา ระหว่างวันที่ 4 – 15 มกราคม 2559 ผ่านทางเวปไซด์ www.resident.tmc.or.th/admin
7. สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ประกาศผลและประกาศตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ ว่าสถาบันใดยังมีตำแหน่งว่างเท่าไร ทางเวปไซด์ www.taem.or.th
8. ผู้สมัครกรอกใบสมัคร Matching รอบที่ 2 ส่งมาที่สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ระบุสถาบันที่ต้องการเลือก 1 - 3 สถาบัน ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2558
9. ผู้สมัครสามารถเปลี่ยนอันดับสถาบันที่ต้องการเลือกได้ภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2558
10. สถาบันสอบสัมภาษณ์ รอบที่ 2
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 1 ในสถาบันนั้น พร้อมกันในวันที่ 14 ธันวาคม 2558
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 2 ในสถาบันนั้น พร้อมกันในวันที่ 16 ธันวาคม 2558
แต่ละสถาบันสอบสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 3 ในสถาบันนั้น พร้อมกันในวันที่ 18 ธันวาคม 2558
โดยแต่ละสถาบันแจ้งให้ผู้สมัครสอบทราบว่าได้รับคัดเลือกหรือไม่ในวันสอบสัมภาษณ์แต่ละวัน เพื่อที่ ผู้สมัครจะได้ไม่ต้องไปสอบสัมภาษณ์ในอันดับต่อไปถ้าได้รับเลือกแล้ว
สถาบันมีสิทธิที่จะไม่ดำเนินการสัมภาษณ์ผู้สมัครอันดับที่ 2 – 3 ถ้าได้รับผู้สมัครในอันดับที่ 1 – 2 ครบตามตำแหน่งแล้ว
11. ประกาศผล Matching รอบ 2 ในวันที่ 19 ธันวาคม 2558เมื่อทราบผล Matching แล้วแพทย์ประจำบ้านไปสมัครเป็นทางการที่แพทยสภา ระหว่างวันที่ 4 – 15 มกราคม 2559 ผ่านทางเวปไซด์ www.resident.tmc.or.th/admin
12. สมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินฯ ประกาศผลและประกาศตำแหน่งที่ยังว่างอยู่ ว่ามีสถาบันใดยังมีตำแหน่งว่างเท่าไร ให้ผู้สมัครติดต่อไปยังสถาบันนั้นโดยตรง
ปัจจุบันตำแหน่งแพทย์ประจำบ้านสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แบ่งตามสถาบันได้ดังนี้
รหัส |
สถาบัน |
ตำแหน่ง |
( 1 ) |
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล |
6 |
( 2 ) |
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
5 |
( 3 ) |
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี |
14 |
( 4 ) |
โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า |
12 |
( 5 ) |
กรมการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี |
8 |
( 6 ) |
คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช |
7 |
( 7 ) |
โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช |
10 |
( 8 ) |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ |
4 |
( 9 ) |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
7 |
( 10 ) |
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
2 |
( 11 ) |
โรงพยาบาลเลิดสิน |
3 |
( 12 ) |
โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี |
2 |
( 13 ) |
โรงพยาบาลชลบุรี |
4 |
( 14 ) |
โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น |
4 |
( 15 ) |
โรงพยาบาลหาดใหญ่ |
4 |
( 16 ) |
โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า |
4 |
( 17 ) |
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ |
5 |
( 18 ) |
โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา |
6 |
( 19 ) |
โรงพยาบาลตำรวจ |
3 |
( 20 ) |
โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง |
2 |
( 21 ) |
โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ |
2 |
รวม |
|
116 |
หมายเหตุ 1) การเลือกลงลำดับให้เลือกลงตามรหัส พร้อมชื่อสถาบันตามลำดับ เช่น
อันดับ 1 ( 1 ) คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
อันดับ 2 ( 2 ) คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
อันดับ 3 ( 15 ) โรงพยาบาลหาดใหญ่